สาธารณรัฐไซปรัส (Cyprus)

อีกหนึ่งจุดหมายปลายทางด้านการท่องเที่ยวที่น่ามาเยือน ซึ่งตั้งอยู่ทางตอนใต้ของทวีปยุโรป โดยมี นิโคเซีย (Nicosia) เป็นเมืองหลวงของประเทศ นอกจากนี้แล้วไซปรัสยังถือว่าเป็นเกาะที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 3 ในทะเลเมดิเตอร์เรเนียนอีกด้วย

เมืองนิโคเซีย

38_20110608150621. 38_201106081506211.

     นิโคเซีย เมืองหลวงและเมืองที่ใหญ่ที่สุดของไซปรัส โดยตัวเมืองนั้นตั้งอยู่ใจกลางของเกาะไซปรัส บริเวณริมฝั่งแม่น้ำ Pedieos แม่น้ำที่ยาวที่สุดในไซปรัส เป็นอีกหนึ่งเมืองที่มี ความเก่าแก่ทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม พื้นที่โดยรอบของเมืองจึงเต็มไปด้วยเหล่าพระราชวัง, คฤหาสน์ วิหาร และโบสถ์

38_20110608151205. 38_201106081506212.

     สำหรับการท่องเที่ยวในเมืองนิโคเซียนั้นสามารถแบ่งออกได้สองส่วน โดยส่วนแรกจะเป็นย่านเมืองใหม่ที่มีความทันสมัยและยังเป็นศูนย์กลางการบริหารและการเงินของประเทศ จึงมากมายไปด้วยตึกระฟ้าและสีสันของความเป็นเมือง ซึ่งสามารถชมได้ตามย่านอเวนิวต่างๆ
38_20110608150753. 38_20110608151101.

     จากนั้นมุ่งหน้าไปยังย่านเมืองเก่านิโคเซีย อีกหนึ่งแหล่งท่องเที่ยวที่ยังคงได้รับการอนุรักษ์ไว้เป็นอย่างดี โดยจุดแรกที่อยกให้ไปชม คือ การไปชมกำแพงเมืองเก่าเวนิทเชี่ยน (Venetican walls) ซึ่งถือว่าเป็นกำแพงเมืองที่มีความเก่าแก่ที่สุดในเขตภูมิภาคเมดิเตอร์เรเนียนตะวันออก

ปัจจุบันเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญแห่งหนึ่งของเมืองนิโคเซีย กำแพงเมืองเก่าเวนิทเชี่ยน ถูกสร้างขึ้นระหว่าง 1567 -1570 โดยกำแพงมีความหนาประมาณ 4 -5 เมตร ใน อดีตถูกใช้เพื่อปกป้องพลเมืองจากการโจมตีของออตโตมาน

38_201106081507532. 38_201106081507531.

     และไม่ไกลจากกำแพงเมืองเก่าจะเป็นที่ตั้งของอนุสาวรีย์เทพีเสรีภาพ ซึ่งตั้งอยู่ภายในกำแพงเมืองโบราณ โดยอนุสาวรีย์นั้นเป็นสัญลักษณ์แห่งความเป็นอิสระของไซปรัสจาก การปกครองของจักรวรรดิอังกฤษ ต่อมาเดินทางไปชมความเก่าแก่ของ ท่อระบายน้ำโบราณ ซึ่งเป็นท่อระบายน้ำที่เก่าแก่ที่สุดในไซปรัส โดยท่อระบายน้ำถูกสร้างขึ้นในศตวรรษที่ 18

ถัดมามุ่งหน้าไปยัง ถนนเลดร้า (Ledra Street) เป็นแหล่งช้อปปิ้งหลักของเมืองนิโคเซีย ที่คับคั่งไปด้วยเหล่านักท่องเที่ยว และยังเป็นที่ตั้งของ ตึก Shackolas Tower ซึ่งเป็น อาคารที่สูงที่สุดในเขตเมืองนิโคเซียเก่า ไม่ไกลจากกันจะเป็น พิพิธภัณฑ์เลเวนติโอ (Leventio Museum) พิพิธภัณฑ์โบราณคดี ซึ่งภายในมีการจัดแสดงเกี่ยวกับ เครื่องปั้นดิน เผายุคกลาง แผนที่ และภาพแกะสลัก, อัญมณี และเฟอร์นิเจอร์อื่นๆ

38_201106081509231. 38_201106081509232.

     สุดท้ายไม่พลาดไปเยือน อารามไคค์โคส (Kykkos Monastery) หนึ่งในอารามที่มีชื่อเสียงมากที่สุดในนิโคเซีย โดยอารามถูกสร้างขึ้นในช่วงศตวรรษที่ 11 ตั้งอยู่ที่ระดับความ สูงประมาณ 1,318 เมตร ปัจจุบันพระอารามแห่งนี้ได้กลายเป็นจุดหมายปลายทางด้านการท่องเที่ยวที่สำคัญแห่งหนึ่งของเมืองนิโคเซีย

 

เมืองไคเรเนีย


“เมืองไคเรเนีย” (kyrenia) อีกหนึ่งเมืองท่องเที่ยวที่ตั้งอยู่ทางภาคเหนือของไซปรัส เป็นเมืองชายฝั่งที่มีประวัติศาสตร์อันยาวนานกว่า 6000 ปี ที่โดดเด่นมากที่สุดของเมืองก็คงจะเป็นท่าเรือขนาดเล็กที่มีเสน่ห์ ซึ่งเรียงรายไปด้วยเหล่าเรือยอชท์และเรือประมงเป็นจำนวนมาก 

38_20110622094115. 38_20110622094137.


เมื่อมองไปจากท่าเรือ นักท่องเที่ยวจะได้ตื่นตาไปกับความงดงามของฉากหลังของเมืองที่ถูกโอบล้อมไปด้วยเทือกเขา Besparmak สลับกับภูเขาน้อยใหญ่ จึงไม่น่าแปลกใจนักที่เมืองไคเรเนียจะเป็นเมืองที่มีทัศนียภาพอันงดงามมากที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศไซปรัส

38_201106220941151. 38_201106220941152.

     สำหรับการท่องเที่ยวในเมืองไคเรเนียนั้น แนะนำว่าคุณอาจเริ่มต้นชมเมืองกันที่ท่าเรืออันมีชื่อเสียงของเมือง จากนั้นมุ่งหน้าไปทางทิศตะวันออกของท่าเรือ ที่นั่นจะเป็นที่ตั้งของปราสาทเก่าแก่ทีชื่อว่า “ปราสาทไคเรเนีย” (Kyrenia Castle) ปราสาทโบราณที่ถือว่าเป็นอีกหนึ่งสัญลักษณ์ที่สำคัญของเมืองไคเรเนียนั่นเอง

ปราสาทไคเรเนีย เป็นปราสาทป้อมปราการที่มีความงดงามมาก สำหรับช่วงเวลาในการสร้างปราสาทนั้นค่อนข้างคาดเดาได้ยาก แต่ก็มีการกล่าวอ้าวว่าปราสาทน่าจะถูกสร้างขึ้นในยุคไบเซนไทน์ หรือราวๆศตวรรษที่ 7 เพื่อใช้ในการปกป้องเมืองและภัยคุกคามทางทะเล

38_201106220941372. 38_201106220941371.

     ปัจจุบันพื้นที่บางส่วนของปราสาทไคเรเนียได้มีการเปลี่ยนให้เป็นพิพิธภัณฑ์เรือแตก ซึ่งภายในพิพิธภัณฑ์มีการจัดแสดงเกี่ยวกับซากเรือโบราณจากศตวรรษที่ 4 ซึ่งเป็นหนึ่งในเรือสินค้าที่เก่าแก่ที่สุดลำหนึ่งอีกด้วย

38_20110622094204. 38_201106220942041.

     หลังจากนั้นไม่พลาดเดินทางไปยัง โบสถ์เบลลาพาอิส (Bellapais Abbey) โบสถ์เก่าแก่ที่ตั้งอยู่เหนือหมู่บ้านเบลลาพาอิส (Bellapais Village) และยังเป็นแหล่งท่องเที่ยวหลักของหมู่บ้าน โดยถูกสร้างขึ้นในช่วงระหว่างปี 1198-1205

ภายในประกอบไปด้วยส่วนที่เป็นประตูป้อมปราการ ภายในมีลานกว้างที่ล้อมรอบไปด้วยห้องต่างๆ และหอระฆังที่สวยงามมากห่งหนึ่ง ปัจจุบันโบสถ์หลงเหลือเพียงซากปรักหักพังที่ยังคงมีความงดงาม แม้ว่าบางส่วนจะเสื่อมโทรมไปตามกาลเวลาแล้วก็ตาม

38_201106220942042. 38_20110622094217.     สุดท้ายหากคุณยังมีเวลามากพอ แน่นอนว่าการไปชมความงดามของปราสาทสวยๆซึ่งตั้งอยู่บน เทือกเขาไคเรเนีย (Kyrenia mountain range) ไม่ว่าจะเป็น ปราสาทบัฟฟาเวนโต้ (Buffavento Castle) ปราสาทคันตาร่า (Kantara Castle) และอื่นๆอีกจำนวนมาก นอกจากนี้แล้วเมืองไคเรเนียยังมีกิจกรรมท่องเที่ยวอื่นๆที่น่าสนใจไปไม่น้อยกว่ากัน อาทิเช่น การดำน้ำลึก ล่องเรือ หรือจะไปชมพิพิธภัณฑ์ศิลปะ ก็ได้เช่นกัน 

ที่มา http://travel.thaiza.com/detail_215786.html