ข้อมูลท่องเที่ยวประเทศกรีซ

ประเทศกรีซ เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์ดั้งเดิมที่มาจากอารยธรรมตะวันตก อีกทั้งมีภูมิประเทศ วัฒนธรรม และภาษาที่งดงาม นอกจากจะเป็นที่ตั้งที่สำคัญสำหรับปรัชญาทางตะวันตกแล้ว กรีซยัง เป็นหนึ่งในหลายประเทศของโลกที่มีความโดดเด่นของผู้คน ประเทศเริ่มเปิดเป็นแหล่งท่องเที่ยวของชาวโลกมากขึ้น

สถานที่ท่องเที่ยวในประเทศกรีซ

เอเธนส์ (Athens)

เอเธนส์ หรือ อะเธเน (ภาษากรีก: Αθήνα, Athens) เป็นเมืองหลวงของประเทศกรีซ ใช้ชื่อตามเทพเจ้าอาธีนาในปุราณวิทยาของกรีซโบราณในตัวเมืองเอเธนส์จริง ๆ มีประชากรประมาณ 750,000 คน แต่เขตเมืองทั้งหมดมีประชากรประมาณ 3.7 ล้านคน กรุงเอเธนส์มีประวัติมายาวนานตั้งแต่ 1,000 ปีก่อนคริสตกาล

เอเธนส์ เป็นจุดเริ่มต้นของอารยธรรมตะวันตกและเป็นต้นกำเนิดของประชาธิปไตย ทั้งยังเป็นที่ตั้งของวิหารพาร์เธนอนที่ได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลก เมื่อปี พ.ศ. 2530 รวมทั้งโบราณสถานเก่าแก่สมัยกรีก โรมัน ไบแซนไทน์ และออตโตมัน ปัจจุบัน ได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญของโลก และมีนักท่องเที่ยวเป็นจำนวนมากเดินทางไปเยือนในแต่ละปี

อะโครโพลิส (Acropolis)

อะโครโพลิส (Acropolis) คือ ป้อมปราการที่อยู่บนเทือกเขาสูง มีรากศัพท์คือ Acro มาจาก Akros แปลว่าสูง และ Polis แปลว่าเมือง ซึ่งมีอยู่หลายจุดในประเทศกรีซ โดยทั่วไปจะมีวิหารสำหรับเทพผู้พิทักษ์เมือง อะโครโพลิสที่มีชื่อเสียงที่สุดคือ อะโครโพลิสแห่งเอเธนส์ ซึ่งมีวิหารสามแห่ง คือ วิหารพาร์เทนอน(Parthenon) วิหารอิเรกเทียม (Erechtheum) และมีโรงละครอีกสองแห่งคือ โรงละครเฮโร เดส อัตติกัส (Theatre of Atticus) และโรงละครไดโอนีซัส (Theatre of Dionysus)

เกาะซานโตรินี่ (Santorini)

JTR_01

เกาะซานโตรินี่ (Santorini) นี้เป็นเกาะที่ดังมากๆ ของประเทศกรีซ ตั้งอยู่ทางทิศเหนือของเกาะ Crete ในทะเล Aegean ด้วยความที่มีเอกลักษณ์ ของสถาปัตยกรรม ที่โดดเด่นมาก ถ้าใครเคยเห็นภาพบ้านสีขาวหลังคาโดมสีฟ้าตามโปสการ์ดท่องเที่ยวของกรีซแล้ว นั่นแหละ แทบทั้งหมดจะถ่ายมาจากเกาะนี้

Oia village on Santorini island, Greece at nightime-M

การมาเที่ยวเกาะนี้ ถ้าใจร้อนก็สามารถขึ้นเครื่องมาได้ แต่ถ้าใจเย็น ก็ต้องนั่งเรือเฟอรี่ ถึงกว่าสามชั่วโมงจึงจะถึงซานโตรินี่ ประวัติของตัวเกาะนี้ แต่ก่อนเป็นภูเขาไฟ และเกิดการระเบิดขึ้นหลายครั้ง ทำให้ส่วนตรงกลางปล่องภูเขาไฟยุบลง เกิดเป็นหมู่เกาะขนาดย่อมๆขึ้น เรียกว่าหมู่เกาะ Cyclades ทำให้เกาะนี้เกิดลักษณะเฉพาะตัวตามธรรมชาติขึ้น นั่นก็คือ กลายเป็นหมู่เกาะ ที่ประกอบด้วยเกาะใหญ่ รูปคล้ายประจันทร์เสี้ยว เป็นวงด้านนอก ล้อมวงใน ที่เป็นหน้าผา และตรงกลางมีเกาะเล็กๆซึ่งเป็นยอดปล่องภูเขาไฟอยู่ แต่ถ้าอาศัยเพียงธรรมชาติของเกาะเพียงอย่างเดียว ก็คงไม่ดึงดูดความสนใจของนักท่องเที่ยวซักเท่าไรนัก
มนุษย์คนแรก ที่เหยียบย่างขึ้นมาบนเกาะนี้ ก็ราวๆ 3000 ปีก่อนคริสตกาลโน่น และตั้งถิ่นฐานมายาวนานจนเป็นอารยธรรม ของหมู่เกาะนี้ เรียกว่ายุค Minoan จนกระทั่งถูกภูเขาไฟถล่มลงอีกครั้ง ฝังทับเมือง Akrotiri ไว้กว่า 3600 ปีมาแล้ว (เหมือนกับที่ปอมเปอี)
หมู่บ้านที่เป็นท่าเรือ เรียกว่า Thira หรือ Fira จะเป็นเมืองหลวงของเกาะนี้ Thira เป็นเมืองใหญ่ มีร้านรวงเยอะกว่า Oia แต่วิวที่เห็นปล่องภูเขาไฟก็ต่างกันไปคนละมุม โดยเกาะซานโตรินี่ ที่เป็นรูปพระจันทร์เสี้ยว มีหมู่บ้านOia อยู่ตรงปลายด้านบนของวงพระจันทร์ ส่วน Thira จะอยู่ตรงกลาง
ข้าวของใน Thira นั้นรู้สึกจะราคาถูกกว่า Oia นิดหน่อย แต่หมู่บ้านที่จะไปดูบ้านกันนี้ชื่อ ไอเอ (Oia) ซึ่งอยู่ทางเหนือของเกาะ หมู่บ้าน Oia นี้เป็นหมู่บ้านเล็กๆ แต่น่ารักมากๆ เป็นหมู่บ้านที่เต็มไปด้วยนักท่องเที่ยว โดยเฉพาะชาวอเมริกัน เนื่องจากว่าเกาะนี้เป็นเกาะที่ดังที่สุดในกรีซ และชายหาดที่ซานโตรินี่ก็โด่งดัง เพราะว่าไม่เหมือนใครเช่นกัน คือมีทรายเป็นสีดำ เพราะว่ามันเกิดมาจากลาวาภูเขาไฟ จึงทำให้สวยแบบแปลกไปอีกแบบ
ที่น่าดู น่าชม จนทำให้หมู่เกาะแห่งนี้โด่งดังที่สุด ในบรรดาเกาะต่างๆของกรีซคือ ส่วนบนของเกาะ ตามขอบหน้าผา จะมีบ้านเรือนสีขาวฟ้าเีรียงรายไปตามลาดเอียงของหน้าผาที่สูงชันกว่า 700 ฟุต แต่ที่ชาวบ้านนิยมขึ้นมาปลูกบ้านกันบนหน้าผาสูงนี้ ด้วยเหตุผล 2 อย่างคือ ด้านความปลอดภัย จากโจรสลัดในสมัยก่อน การอยู่ที่สูงจะทำให้ยากต่อการเข้าถึง และง่ายต่อการป้องกันตัว อีกอย่างหนึ่งคือ บนหน้าผาจะรับลมดีและมีอุณหภูมิเย็นกว่าด้านล่างโดยเฉพาะช่วงหน้าร้อน ชาวบ้านจึงหนีกันขึ้นมาสร้างบ้านกันบนนี้

เมืองโอลิมเปีย (Olympia)

38_201204010943121.
เมืองโอลิมเปีย (Olympia) ที่ซึ่งมีจัดแข่งขันกีฬาโอลิมปิกขึ้นเป็นครั้งแรกเมื่อ 776 ปีก่อนคริสตกาล สนามกีฬาดั้งเดิมที่ เฮอร์คิวลิส และอพอลโล ทำการแข่งขันกัน และเนโรชนะการแข่งขันรถม้าสมัยโบราณ พร้อมกับทีมม้าแข่ง 10 ทีม นั้นยังคงมีให้เห็นอยู่จนทุกวันนี้ ส่วนรูปปั้นของเทพเจ้าซุสที่ยืนอยู่ในเมืองโอลิมเปียนั้น ปัจจุบันวิหารแห่งเทพเจ้าซุสที่เสื่อมทำลายลงไปนี้ได้รับการยอมรับว่าเป็น 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลก

38_20120401094312.

วิหารโอลิมเปี้ยนซุส (Temple of the Olypian Zeus)

38_20120401094641.
วิหารโอลิมเปี้ยนซุส (Temple of the Olypian Zeus) ตัวอาคารสร้างขึ้นเมื่อ 700 ปี ที่แล้ว ซากที่เหลือนี้ถูกทิ้งอยู่ระเกะระกะจนยากที่จะจินตนาการไปถึงว่าครั้งหนึ่ง ที่นี่คือสถานสักการะบูชาที่มีความสำคัญมากกว่าวิหารกรีกอื่นใดทั้งหมดใน สมัยนั้น จนเป็นสาเหตุให้อริสโตเติล ถือว่ายิ่งใหญ่เท่าเทียมกับพีระมิดแห่งอิยิปต์ ปัจจุบัน มีเสาแบบโครินเธียนเหลืออยู่เพียง 15 ต้น จากของดั้งเดิมทั้งหมดที่มีอยู่ 104 ต้น

วิหารพาร์เธนอน

ÎÄ»¯Ö®Â㺵ØÀíÈËÎľ°¹Û±ÚÖ½¾«Ñ¡ µÚÁù¼­
วิหารพาร์เธนอน (ภาษากรีก:το parthenon) คือวิหารโบราณบนเนินอะโครโพลิสในกรุงเอเธนส์ ประเทศกรีซ สร้างเพื่อเป็นศาสนสถานบูชาเทพีเอเธนา หรือเทพีแห่งปัญญา ความรอบรู้ ในศตวรรษที่ 5 ก่อนคริสต์ศักราช เป็นสิ่งก่อสร้างสถาปัตยกรรมกรีกโบราณที่มีชื่อเสียงที่ สุด แสดงให้เห็นถึงความเฉลียวฉลาดของสถาปนิกในสมัยนั้นและถือได้ว่าเป็นหนึ่งในสิ่งก่อสร้างที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก มีขนาดกว้าง 101.4 ฟุต หรือ 30.9 เมตร และ ยาว 228.0 ฟุต หรือ 69.5 เมตร

คำว่า พาร์เธนอน นั้นน่าจะมาจากประติมากรรมที่เคยตั้งอยู่ภายในวิหาร คือ Athena Parthenos ซึ่งมีความหมายว่า เทพีอันบริสุทธิ์

การก่อสร้าง
วิหารพาร์เธนอนสร้างตามการริเริ่มของเพริเคิล ผู้นำกรุงเอเธนส์ในสมัยนั้น และสร้างโดยมีประติมากรฟีเดียสเป็นผู้ควบคุมงาน การก่อสร้างเริ่มขึ้นเมื่อ 447 ปีก่อนคริสต์ศักราช ถึงแม้ว่าการก่อสร้างจะเสร็จสมบูรณ์เมื่อ 438 ปีก่อนคริสต์ศักราชแล้วก็ตาม แต่ก็ยังมีการตกแต่งเพิ่มเติมอีก 5 ปี บัญชีส่วนหนึ่งของการก่อสร้างครั้งนี้หลงเหลืออยู่ และแสดงให้เห็นว่างานที่มีค่าใช้จ่ายสูงสุด คือ การขนย้ายหินจากเขาเพนเทลิกัส ซึ่งอยู่ห่างจากกรุงเอเธนส์ไปกว่า 16 กิโลเมตร
วิหารพาร์เธนอนมีขนาดกว้าง 30.9 เมตร ยาว 69.5 เมตร (101.4 × 228.0 ฟุต) เสาภายนอกแต่ละต้นมีเส้นผ่านศูนย์กลาง 1.9 เมตร (6.2 ฟุต) และสูง 10.4 เมตร (34.1 ฟุต) เสาที่หัวมุมของวิหารจะมีขนาดใหญ่กว่าเสาอื่นๆ เล็กน้อย หลังคาปูด้วยหินอ่อนซ้อนกัน
เมื่อนำขนาดของวิหารนี้มาคำนวณเป็นอัตราส่วน จะพบว่าหลายๆ แห่งเป็นอัตราส่วนทองคำ เสาด้านหน้าจะมี 9 ต้น เเละด้านข้างจะมี 17 ต้น

การเปลี่ยนแปลง

พาร์เธนอนยังคงเป็นวิหารมากว่าพันปีนับจากเสร็จสิ้นการก่อสร้าง ซึ่งถือว่ามีอายุเก่าแก่มาก หลังจากนั้นพาร์เธนอนจึงกลายเป็นโบสถ์คริสเตียน ในปี ค.ศ. 1456 เอเธนส์ตกเป็นของจักรวรรดิออตโตมัน พาร์เธนอนจึงถูกเปลี่ยนเป็นสุเหร่า ในระหว่างนี้ มีการครอบครองอาณาจักรกันมากมาย วิหารพาร์เธนอนแห่งนี้จึงเปลี่ยนเป็นสถานที่ทางศาสนาและวัฒนธรรมต่างๆ ของอาณาจักรที่เป็นใหญ่ในขณะนั้น และมีการบูรณะรักษาสถานที่แห่งนี้อยู่หลายครั้ง ภายหลังจากนั้นในปี ค.ศ. 2004 มีการบูรณะวิหารพาร์เธนอนครั้งใหญ่เนื่องจากประเทศกรีซได้รับเลือกให้จัดการ เเข่งขันโอลิมปิกซึ่งเเน่นอนว่าจะมีพิธี เปิดที่วิหารพาร์เธนอน

อารามแห่งเมเทออรา (METEORA MONASTERY)
บนยอดเขาเหล่านี้เป็นที่ตั้งของอารามหลาย แห่งที่มีความพิเศษมากที่สุดในโลก โดยชื่อเมเทออรามีที่มาจากคำกริยาว่า “METEORIZO” ซึ่งแปลว่าแขวนห้อยอยู่กลางอากาศ โดยยอดเขาเหล่านี้มีรูปร่างแปลกตาอันเกิดจากการกัดเซาะของแม่น้ำปินิออส (PINEIOS) มาเป็นเวลานับล้านปี ชม อารามเมกาโล เมเทออรอน (MEGALO METEORON) ซึ่งเป็นอารามที่ใหญ่ที่สุดในอารามทั้งหมด ใช้เวลาสร้างถึงกว่า 3 ศตวรรษจึงแล้วเสร็จ โดยก่อตั้งขึ้นราวปี ค.ศ. 1356 แต่เดิมที่เมเทออราเคยเป็นอารามที่ตั้งอยู่บนยอดเขาถึง 24 แห่ง แต่ปัจจุบันจะเหลือเพียง 6 แห่งเท่านั้นที่ยังมีคนอาศัยและเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชม นอกจากนั้น อารามแห่งนี้เคยใช้เป็นสถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์เรื่อง “เจมส์ บอนด์ ตอน FOR YOUR EYES ONLY” อีกด้วย ณ ที่แห่งนี้ท่านจะต้องแปลกใจในความสามารถของพระในสมัยโบราณที่สามารถสร้างอารามบนยอดเขาสูงโดยการนำหินหรืออิฐแต่ละก้อน ไม้แต่ละแผ่นไปสู่ยอดเขา โดยลำเลียงในตะกร้าและบันไดเชือก

meteora-monastery-greece_60700_990x742

หาดทรายแดง (Red Beach) หนึ่งในชายหาดที่มีชื่อเสียงของซานโตรินี่ มีความโดดเด่นที่สีแดงของหาดทราย ซึ่งเกิดจากสีของหินภูเขาไฟที่อยู่บริเวณใกล้เคียง แล้วนำท่านชมจุดชมวิวที่สวยที่สุดในเมืองเอีย และเป็นจุดที่ได้รับการถ่ายรูปมากที่สุดในซานโตรินี่ รวมทั้งเป็นจุดที่ที่ชมพระอาทิตย์ตกดินได้สวยงามที่สุด ดื่มด่ำกับบรรยากาศพร้อม ชมพระอาทิตย์ลับขอบฟ้าที่สวยงามที่สุดบนเกาะด้วยบรรยากาศโรแมนติกแสนประทับใจ อันเป็นไฮไลท์ของเกาะที่พลาดไม่ได้

red beach

วิหารอีเรคธีอุม เพื่อเป็นอนุสาวรีย์แห่ง อีเรคธีอุม ในเทพนิยายกรีกเมื่อสงครามเพลอปปอนเนเซีย มีรูปแกะสลักหญิงสาว 6 คน ถูกลงโทษให้กลายเป็นเสาหินค้ำยันวิหาร นอกจากนี้ยังคงมีสิ่งก่อสร้างที่เป็นสาธารณะ อาทิ โรงละคร หรือ โอเดีย, แท่นบูชาเทพเจ้าซุสที่เพอกามัม, อะกอร่า หรือย่านชุมชนเช่นเดียวกับตลาด, สนามกีฬากลางแจ้ง

0Delphi01

3427912277_d093879274

เกาะมิโคนอส (Myconos)

เกาะมิโคนอส (Myconos) เกาะแห่ง Jet Set หรือเหล่าชนชั้นสูงทั่วโลกที่ต่างนิยมล่องเรือยอร์ทมาพักผ่อนตากอากาศ และเป็นเกาะที่มีชื่อเสียงมากที่สุดในหมู่เกาะ ไซคลาดิก ด้วยทิวทัศน์และ บริเวณตอนกลาง เยื้องลงมาทางใต้ของทะเลอีเจียน อยู่ห่างจากกรุงเอเธนส์ เมืองหลวงของกรีซ 94 ไมล์ทะเล
ซึ่งสิ่งที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกให้มายังเกาะนี้ คือ น้ำทะเลสีเขียวเข้มใสสะอาดและหาดทรายสีทอง ที่โดดเด่นโดนใจอีกอย่างก็คือบรรดาบ้านช่องทรงสี่เหลี่ยมบนเกาะล้วนทาสี ขาวสะอาดตา สัมผัสมนต์เสน่ห์ของกลุ่มบ้านริมทะเลอีเจี้ยนที่ถูกขนานนามว่า เมืองเวนิซน้อยๆ“Small Venice” (Mikri Venetia) ถือว่าเป็นอีกจุดที่ถูกถ่ายภาพมากที่สุด ริมทะเลอีเจี้ยน ที่มีบรรยากาสคล้ายคลึงกับนครเวนิส ประเทศอิตาลี มหัศจรรย์กับ Windmills หรือกังหันกลางทะเลที่เรียกว่า Kato myloi
ซึ่งในอดีตมีมากกว่า 20 อันปัจจุบันเหลือเพียง 7 อันเท่านั้น กังหันเหล่านี้ตั้งเรียงรายอยู่ริมชายฝั่งเป็นซิมโบลิกของภูมิปัญญาชาวบ้าน เนื่องจากเกาะนี้มีคลื่นลมแรงเกือบตลอดปี โดยเฉพาะช่วงเดือนกรกฎาคม และสิงหาคม เป็นช่วงที่มีลมเข้ามามากที่สุด
นอกจากนั้นเรายังมีโอกาสสำรวจความสวยงามของเกาะแห่งนี้มากมาย ไม่ว่าจะเป็นการนอนแก้ผ้าอาบแดดตามชายหาดสีขาวๆ ซึ่งมีมากกว่า หาดทั่วเกาะ หรือจะไปเดินเล่น ช้อปปิ้ง ในย่านเมืองเก่า (Chora) ย่านที่บ้านเรือนทุกหลังทาสีขาว ประดับระเบียงบ้านด้วยกระถางดอกไม้ ชมวิวกลุ่มเรือหลากสีล่องลอยอยู่กลางทะเล