ราชอาณาจักรเนปาล (Kingdom of Nepal) เป็นประเทศในเอเชียใต้ ตั้งอยู่ระหว่างอินเดียกับทิเบตในหุบเขาทางด้านใต้ของเทือกเขาหิมาลัย มีขนาดเพียง 147,181 ตารางกิโลเมตร หรือเพียงประมาณ 1 ใน 3 ของขนาดในประเทศไทย และเป็นเพียง 1 ใน 15 ประเทศทั่วโลกที่ไม่มีทางออกสู่ทะเล มีกรุงกาฐมาณฑุเป็นเมืองหลวง
เนปาลเป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบธรรมชาติและอารยธรรมเก่าแก่ เนื่องจากดินแดนนี้ มีความหลากหลายทางภูมิศาสตร์ นักท่องเที่ยวสามารถชื่นชมเทือก เขาหิมะ และยอดเขาที่สูงที่สุดในโลก 8 ยอด จากจำนวน 14 ยอด รวมทั้งยอดเขาเอเวอร์เรสต์ที่สูง ที่สุดในโลก ไปจนถึงป่าดงดิบทางตอนใต้ เช่น ที่เมืองจิตวัน ที่นัก ท่องเที่ยวสามารถสนุกสนานกับการเที่ยวป่า และดูสัตว์ป่าที่หาได้ยาก
นอกจากนี้ อารยธรรมหลายพันปีของอาณาจักรฮินดู ก็ยังมีหลงเหลือให้เห็นอยู่ตามสถาปัตยกรรมเก่าแก่ที่มีกระจายอยู่ทั่วประเทศ ทางตอนใต้ของเนปาลใกล้กับชายแดน อินเดียยังมีเมืองลุมพินี ซึ่งเป็นสถานที่ประสูติของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า โดยแต่ละปีจะมีชาวพุทธจากทั่วโลกหลั่งไหลไปจาริกแสวงบุญที่นี่เป็นจำนวนมาก
เนปาลมีอากาศที่แตกต่างกันมากในระหว่างปี โดยฤดูหนาวจะอยู่ในช่วงเดือนธันวาคม-กุมภาพันธ์ ฤดูใบไม้ผลิอยู่ในระหว่างเดือนมีนาคม-พฤษภาคม ฤดูร้อนอยู่ใน ช่วงเดือนมิถุนายน-สิงหาคม และฤดูใบไม้ร่วงอยู่ในระหว่างเดือนกันยายน-พฤศจิกายนช่วงที่เหมาะสำหรับการท่องเที่ยวมากที่สุดอยู่ระหว่างเดือนตุลาคม-มีนาคม สำหรับ ในกรุงกาฐมาณฑุ โดยปกติจะมีอุณหภูมิระหว่าง 2-3 องศาเซลเซียส ในฤดูหนาว และ 10-22 องศาเซลเซียส ในฤดูร้อน และมีอุณหภูมิเฉลี่ยทั้งปีประมาณ 11 องศา เซลเซียส
ประชากรในเนปาลมีประมาณ 27.1ล้านคน (UNFPA State of the World Population Report 05) ส่วนใหญ่ยากจนและมีอาชีพทางเกษตรกรรม มีศาสนาฮินดู เป็นศาสนาประจำชาติ
ระบอบการเมืองการปกครองของเนปาลมีความใกล้เคียงกับไทยมาก กล่าวคือ มีองค์พระมหากษัตริย์เป็นประมุขของชาติ ภายใต้รัฐธรรมนูญ มีการปกครองระบอบ ประชาธิปไตยแบบรัฐสภา และมีหลายพรรคการเมือง
การบิน ปัจจุบันมีเที่ยวบินของสายการบินไทยบินไปมาระหว่าง กรุงเทพฯ-กรุงกาฐมาณฑุ วันละ 1 เที่ยวบิน ตลอดสัปดาห์
ชาวเนปาลมีภาษาเนปาลีเป็นภาษาประจำชาติ อย่างไรก็ดี ชาวเนปาลจำนวนไม่น้อยสามารถสื่อสารกับชาวต่างชาติได้ด้วยภาษาอังกฤษ จึงทำให้ภาษาไม่เป็น อุปสรรคมากจนเกินไปนัก สำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการสัมผัสเนปาล
ความเป็นอยู่
ระบบสาธารณสุขมูลฐานของเนปาลยังไม่ดีนัก การรับประทานอาหารและน้ำดื่มจะต้องระมัดระวังในเรื่องความสะอาดเป็นอย่างมาก นอกจากนี้ เนปาลยังขาดแคลน เครื่องอุปโภค-บริโภค สินค้าส่วนใหญ่ต้องนำเข้าจากต่างประเทศ โดยเฉพาะจากอินเดีย และจีน สำหรับอาหารที่หาง่ายที่สุดคือ เนื้อไก่ สำหรับเนื้อหมูนั้นไม่เหมาะ สำหรับการบริโภค เนื่องจากการเลี้ยงไม่ถูกสุขลักษณะ อาหารทะเลมีน้อยมาก นำเข้ามาจากอินเดียและบังกลาเทศโดยการแช่แข็ง และโดยที่เนปาลเป็นประเทศฮินดู การบริโภคเนื้อวัวจึงเป็นเรื่องผิดกฎหมาย
สภาพอากาศในกรุงกาฐมาณฑุ มีฝุ่นและมลภาวะสูง เนื่องจากตั้งอยู่ในหุบเขา ดังนั้นอากาศเสียที่เกิดจากโรงงานเผาอิฐ ทอพรม และควันพิษจากท่อไอเสีย จึงไม่ สามารถลอยออกไปจากหุบเขาได้ ในฤดูแล้งประชาชนจะประสบภาวะขาดแคลนน้ำประปาเป็นอันมาก นอกจากนี้ เนปาลยังประสบกับภาวะการขาดแคลนพลังงานไฟฟ้า ในบางครั้งทางการจึงต้องประกาศปิดไฟฟ้าทุกวัน ๆ ละ 1-2 ชั่วโมง โดยหมุนเวียนไปในแต่ละพื้นที่
วัฒนธรรม – ประเพณี
คนเนปาลส่วนใหญ่จิตใจดี และใจเย็นเช่นเดียวกับคนไทย ชาวเนปาลถือว่าการใช้เท้าเป็นเรื่องไม่สุภาพเช่นเดียวกับการใช้มือซ้าย การให้และรับของจากผู้อื่นจึงใช้ มือขวา อย่างไรก็ดี ภาษากายที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงระหว่างคนไทยกับคนเนปาล ซึ่งสร้างความสับสนงุนงงให้แก่ผู้เพิ่งไปถึงใหม่ ๆ คือ ” การส่ายหน้า ” สำหรับคนไทย การส่ายหน้าหมายถึงการปฏิเสธ แต่สำหรับคนเนปาลการส่ายหน้าคล้ายการโคลงศีรษะเพียงรอบเดียว คือสัญญาณการตอบรับ การผูกมิตรกับชาวเนปาลนั้นไม่ยาก การ พนมมือพร้อมกับกล่าวคำว่า ” นมัสเต ” มีความหมายเช่นเดียวกับคำว่า ” สวัสดี ” ของไทย
ข้อควรกระทำ
1.เตรียมยาประจำตัวต่าง ๆ ที่จำเป็น เนื่องจากอาจจะหาซื้อไม่ได้ที่เนปาล
2.ถ้านำเงินตราต่างประเทศเข้าเนปาลเทียบเท่าหรือมากกว่า 2,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต้องแจ้งให้ศุลกากรทราบเพื่อทำบันทึกไว้ก่อนเข้าเมือง
3.ต่อรองราคาสินค้าได้
ข้อที่ไม่ควรกระทำ
1. ไม่รับประทานเนื้อวัวและคนเนปาลถือว่าวัวเป็นสัตว์ศักดิ์สิทธิ์
2. ไม่ใส่รองเท้าเข้าบ้าน วัดหรือสถานที่บูชา และถ้าเข้าวัดฮินดูห้ามใส่เครื่องหนัง เช่น รองเท้าหนัง เข็มขัดหนัง
3. ห้ามนำศิลปวัตถุ และวัตถุโบราณอายุเก่าแก่กว่า 100 ปีออกนอกประเทศ
4. ไม่ควรให้เงิน ขนมกับขอทาน
5. ชาวเนปาลถือว่าการใช้เท้าเป็นเรื่องไม่สุภาพ เช่นเดียวกับการใช้มือซ้าย การให้และรับของจากผู้อื่นจึงใช้มือขวา
สถานที่ท่องเที่ยว
เนปาลเป็นประเทศที่มีสถานที่ท่องเที่ยวอยู่มากทั้งทางด้านธรรมชาติและศิลปะ-วัฒนธรรม รวมทั้งประเทศหนึ่งที่นักเดินป่า-ไต่เขา-ล่องแก่ง โปรดปราน สำหรับจุด ท่องเที่ยวต่าง ๆ อาจพอกล่าวเป็นสังเขปได้ดังนี้
กรุงกาฐมาณฑุ โบราณสถานทางศาสนาฮินดู และพระราชวังโบราณ เช่น Hanuman Dhoka, Kumari Chowk หรือ Kumari Bahal (House of the Living Goddess) สวายัมภูนาถ หรือ Monkey Temple และวัด Pashupatinath ซึ่งเป็นสถานที่เผาศพของชาวฮินดู เป็นต้น เขตรอบเมืองกาฐมาณฑุ Durbar Square (ลานพระราชวัง) ของเมือง Patan และเมือง Bhaktapur ซึ่งมีความวิจิตรอลังการของศิลปะและสถาปัตยกรรมของวัฒนธรรมเน วารี นอกจากนี้ ยังมีเมือง Dhulikhel, Nagarkot เป็นสถานที่ชมเทือกเขาหิมาลัย
เมืองโพคารา เป็นเมืองท่องเที่ยวสำคัญ มีทะเลสาบ และยอดเขาสวยงามที่ชื่อ Machapuchare
เมืองลุมพินี เป็นสถานที่ประสูติของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า มีวัดไทยลุมพินีตั้งอยู่ในปริมณฑลสังเวชนียสถานเขตลุมพินีวันที่ตอนใต้ของเนปาล มีจุดผ่านแดนสากล ทางบกระหว่างเนปาล (ด่าน Belahiya)และอินเดีย (ด่าน Sonauri) สามารถเดินทางไปได้ทั้งทางเครื่องบินและทางรถ ที่วัดไทยลุมพินีมีเจ้าอาวาสคือ พระราชรัตนรังษี พระธรรมทูตสายประเทศอินเดียและมีพระสงฆ์ไทยจำวัดอยู่ด้วย หมายเลขโทรศัพท์ของวัดฯ คือ(977-1) 580222 และ โทรสาร (977-1) 580271
เมืองจานักปูร์ ตั้งอยู่ที่ภาคใต้ของเนปาล เป็นเมืองในหนังสือพระราชนิพนธ์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เรื่อง”พระมหาชนก” มีความสำคัญทางศาสนาฮินดูและมี ศิลปกรรมดั้งเดิม คือ Mithila Art เป็นเมืองที่มีชื่อเสียงปรากฏอยู่ในหนังสือรามเกียรติ์ ประวัติของพระราม พระลักษณ์ นางสีดาและหนุมาน อยู่ที่เมืองนี้
ข้อมูลโดย : กระทรวงการต่างประเทศ