บังกลาเทศ เส้นทางมรดกโลก 5 วัน
(บินภายใน 2 เที่ยว)
15-19 ธ.ค. ราคา 39,900
วันแรกของการเดินทาง//กรุงเทพฯ-ธากา
08.30 คณะพร้อมกันที่ สนามบินนานาชาติสุวรรณภูมิ (ชั้น 4) ณ เคาน์เตอร์สายการบินไทยสมายล์ (Thai Airways) เจ้าหน้าที่บริษัทฯคอยอำนวยความสะดวกและตรวจสอบเอกสารก่อนการเดินทาง
10.55 ออกเดินทางสู่ ธากา ประเทศบังกลาเทศ โดยสายการบิน Thai Airways เที่ยวบินที่ TG321 (ใช้เวลาในการเดินทาง 2.35 ชั่วโมง)
12.30 เดินทางถึง สนามบินนานาชาติธากา (Shah Amanat International Airport) หลังจากผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองและรับกระเป๋า/สัมภาระเรียบร้อยแล้ว จากนั้นนำท่านเดินทางไปยังใจกลาง เมืองธากา (Dhaka) ซึ่งเป็นเมืองหลวงของประเทศบังกลาเทศ ตั้งอยู่บนแม่น้ำบุรีคงคา (Buriganga River) เป็นพื้นที่ปลูกปอกระเจาที่ใหญ่ที่สุดในโลก เป็นศูนย์กลางทางอุตสาหกรรม การค้า และการปกครองของบังกลาเทศ มีประชากรอาศัยอยู่ราว 14.54 ล้านคน จากนั้นนำท่านเยี่ยมชม ป้อมปราการลาลแบก (Lalbagh Fort) เริ่มต้นการก่อสร้างในปีคริสต์ศักราช 1678 กำกับดูแลการก่อสร้างโดยมกุฎราชกุมารแห่งจักรวรรดิโมกุล มูฮัมหมัด อาซัม ชาห์ (Mughal Subahdar Muhammad Azam Shah) บุตรชายของจักรพรรดิออรังเซพที่ 1 (Emperor Aurangzeb) หลังจากเริ่มการก่อสร้างในช่วงระยะเวลาหนึ่งจักรพรรดิได้เรียกตัวบุตรชายกลับเพื่อสืบทอดราชวงศ์ จึงทำให้การก่อสร้างป้อมปราการนั้นได้หยุดชะงักลงไป ต่อมาเมืองธากาได้มีผู้ปกครองใหม่โดยเชสต้ะ ข่าน (Shaista Khan) ก็ไม่ได้มีการก่อสร้างป้อมปราการเพิ่มเติม จนในปีคริสต์ศักราช 1684 บุตรสาวของเชสต้ะ ข่าน นามว่า บีบีพารี่ (Iran Dukht Pari Bibi) ได้เสียชีวิตลง เขาเริ่มคิดว่าป้อมปราการนี้เป็นสัญลักษณ์ของความโชคร้าย จึงได้แบ่ง 1 ใน 3 ของป้อมปราการเป็นที่ฝังศพของบุตรสาวของเขา และได้ทำการย้ายเมืองหลวงจากธากาไปยังเมืองเมอชิดาบัต (ปัจจุบันเป็นหนึ่งในเมืองของรัฐเบงกอลตะวันตก ประเทศอินเดีย) อีกส่วนหนึ่งของป้อมปราการได้ถูกดัดแปลงเป็นบ้านพักสองชั้นของผู้สำเร็จราชการของราชวงศ์โมกุล นำท่านถ่ายรูปกับ อนุสาวรีย์ชาหีดมินาร์ (Shahid Minar) หรืออนุสาวรีย์แห่งการพลีชีพ สร้างขึ้นเพื่อเป็นอนุสรณ์สถานของผู้ที่เสียชีวิตจากเหตุการณ์ชุมนุมที่เรียกร้องให้ภาษาเบงกาลีเป็นภาษาทางราชการของปากีสถาน จากนั้นเดินทางไปยังมหาวิทยาลัยธากา (Dhaka University) เพื่อเยี่ยมชม เคอร์ซันฮอลล์ (Curzon Hall) ชื่ออาคารตั้งตามชื่อของอุปราชของอินเดียที่เดินทางมาทำพิธีวางศิลาฤกษ์นามว่าลอร์ด เคอร์ซัน (Lord Curzon) แต่เดิมอาคารแห่งนี้ใช้เป็นศาลากลางประจำเมือง ปัจจุบันเป็นหนึ่งในอาคารของคณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยธากา นำท่านเยี่ยมชม มัสยิดดารา (Star Mosque/Tara Masjid) มัสยิดที่ประดับตกแต่งด้วยโมเสกและกระเบื้องลวดลายของดาวสีฟ้า สร้างในคริสต์ศตวรรษที่ 19 โดยเมียร์ซา โกลัม เปียร์ (Mirza Golam Pir) เยี่ยมชม คริสตจักรอาร์เมเนีย (Armenian Apostolic Church of the Holy Resurrection) เป็นคริสตจักรที่มีความสำคัญต่อประวัติศาสตร์เนื่องจากเป็นหลักฐานยืนยันว่าชาวอาร์เมเนียเคยดำรงชีวิตอยู่ในพื้นที่แห่งนี้ในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 17 จนถึงคริสต์ศตวรรษที่ 18 (ช่วงที่ชาวเปอร์เซียยึดบ้านเมืองของชาวอาร์เมเนีย และขับไล่ชาวอาร์เมเนียไปยังแคว้นเบงกอล) เมื่อได้เวลาอันสมควรนำท่านเยี่ยมชม มัสยิดไบตุล มุคคาร์ราม (Baitul Mukarram Mosque) มัสยิดแห่งชาติของบังกลาเทศ ที่เริ่มสร้างในช่วงต้นของปีคริสต์ศักราช 1960 และเสร็จสิ้นการก่อสร้างในปีคริสต์ศักราช 1968 โดยได้รับการออกแบบโดยสถาปนิกนามว่า อับดุลฮุสเซน (T Abdul Hussain Thariani) โดยรูปแบบสถาปัตยกรรมนั้นได้ทำการจำลองแบบมาจากมัสยิดล้อมอัลละฮอมแห่งเมืองมักกะห์ และการตกแต่งนั้นได้รับอิทธิพลทั้งจากศิลปะอินเดียและเปอร์เซีย มัสยิดแห่งนี้ได้รับการขยายพื้นที่ในภายหลัง เพื่อรองรับจำนวนคนที่เข้ามาสวดมนต์เป็นจำนวนมาก ส่งผลให้มัสยิดแห่งนี้เป็นมัสยิดที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 10 ของโลก จากนั้นนำท่านเยี่ยมชมด้านนอก อาคารรัฐสภา (National Parliament Building) ออกแบบโดยสถาปนิกนามว่าหลุยส์คาห์น (Louis Kahn) เป็นอาคารที่มีความซับซ้อนทางด้านสถาปัตยกรรมและมีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก เนื่องจากมีพื้นที่ใช้สอยราว 200 เอเคอร์หรือประมาณ 800,000 ตารางเมตร
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารของโรงแรม
พักที่ ธากา โรงแรม Golden Tulip – The Grandmark Dhaka หรือเทียบเท่าระดับ 4 ดาว
วันที่สองของการเดินทาง//ธากา-ไสยทปุระ-วัดคันตาจิว-มัสยิดนายาบัต-พระราชวังทาจฮัท-โบกรา-มหาสธานคร
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
จากนั้นนำท่านเดินทางไปยังสนามบิน สนามบินนานาชาติชาห์จาลาล (Hazrat Shahjalal Intl Airport)
08.30 ออกเดินทางสู่ เมืองไสยทปุระ โดยสายการบิน Novoair เที่ยวบินที่ VQ961 (ใช้เวลาเดินทาง 1 ชั่วโมง)
09.30 เดินทางถึง สนามบินไสยทปุระ (Saidpur Airport)
นำท่านเดินทางไปยังใจกลาง เมืองไสยทปุระ (Saidpur) เมืองในเขตรังปุระ (Rangpur) ได้รับสมญานามว่าเป็นเมืองแห่งธุรกิจ เนื่องจากเป็นเมืองศูนย์กลางทางการคมนาคมของประเทศ เป็นเมืองชุมทางรถไฟที่ใหญ่ที่สุดในบังกลาเทศ มีสนามบินไสยทปุระที่เป็นสนามบินหลักที่เปิดให้บริการเที่ยวบินภายในทั้งหมด มีรถขนส่งสาธารณะที่สามารถไปยังเมืองต่างๆในบังกลาเทศมากกว่า 300 สาย และเป็นเมืองการค้าสำคัญที่มีการค้าขายทั้งในตอนกลางวันและกลางคืน นำท่านเยี่ยมชม วัดคันตาจิว (Kantajew Temple) วัดฮินดูที่สร้างขึ้นโดยมหาราชาปราณ ณาทห์ เริ่มต้นก่อสร้างในปีคริสต์ศักราช 1722 และเสร็จสิ้นในปีคริสต์ศักราช 1752 (ช่วงรัชกาลของมหาราชาราม ณาทห์ ผู้เป็นบุตรชาย) ก่อสร้างโดยสถาปัตยกรรมเก่าแก่แบบบังกลาเทศและใช้ดินเผาในการก่อสร้างทั้งหมด เดิมหลังคาของมหาวิหารจะมียอดทั้งหมดเก้ายอดแต่เนื่องด้วยเหตุการณ์แผ่นดินไหวในปีคริสต์ศักราช 1897 จึงทำให้ยอดทั้งหมดพังทลายลงมา จากนั้นทำท่านเยี่ยมชม มัสยิดนายาบัต (Nayabad Mosque) สร้างขึ้นในปีคริสต์ศักราช 1793 ช่วงที่จักรพรรดิชาห์ อาลัมที่ 2 (Shah Alam II) ราชวงศ์โมกุล เป็นผู้ปกครองประเทศ
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
จากนั้นนำท่านเยี่ยมชม พระราชวังทาจฮัท (Tajhat Palace) สร้างโดยมหาราชากูมาร์ โกปปาล ลาล รอย (Maharaja Kumar Gopal Lal Roy) ในช่วงปลายคริสต์ศตวรรษที่ 19 พระราชวังถูกสร้างโดยใช้สถาปัตยกรรมกรีก-โรมัน เน้นการตกแต่งด้วยสีขาวเป็นหลัง ด้านหน้าของพระราชวังมีความสูงโดยประมาณ 76 เมตร ด้านในประดับตกแต่งด้วยหินอ่อนสีขาว ในช่วงปีคริสต์ศักราช 1984 จนถึงปีคริสต์ศักราช 1991 พระราชวังถูกใช้เป็นศาลสูงสุดของประเทศบังกลาเทศ ต่อมาในปีคริสต์ศักราช 1995 พระราชวังได้รับการประกาศจากทางการให้เป็นสถานที่ทางประวัติศาสตร์ที่สำคัญภายใต้การดูแลของกรมโบราณคดี จนในปีคริสต์ศักราช 2005 ทางการได้จัดตั้งพิพิธภัณฑ์รังปุระไว้ที่ชั้น 2 ของพระราชวังเพื่อเก็บรวบรวมและจัดแสดงเอกสาร ผลงานศิลปะ และวัตถุโบราณในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 10-11 เมื่อได้เวลาอันสมควรแล้วนำท่านเดินทางไปยัง เมืองพคุฑา หรือ เมืองโบกรา (Bogra) เป็นเมืองที่เก่าแก่ที่สุดในภูมิภาคเบงกอลตะวันตก เคยเป็นเมืองอาณานิคมภายใต้การปกครองของพระเจ้าอโศก (Great Emperor Ashoka) จักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่ของอินเดีย
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารของโรงแรม
พักที่ โบกรา โรงแรม Hotel Naz Garden ระดับ 3 ดาว ดีที่สุดในเมือง
25 ก.พ.61///วันที่สามของการเดินทาง//โบกรา-พาหรปุระ-สัมมาปุระมหาวิหาร
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำท่านเยี่ยมชม มหาสธานคร (Mahasthangarh) แหล่งโบราณคดีที่เก่าแก่ที่สุดในเมืองโบกรา คาดว่ามีการสร้างเมืองแห่งนี้ในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 3 ครอบคลุมพื้นที่มากกว่า 210,000 ตารางเมตร ในช่วงปีคริสต์ศักราช 700 ก็ได้กลายเป็นเมืองหลวงของอาณาจักรพันดรา (Pundra Kingdom) และป้อมปราการของเมืองก็ถูกใช้งานเสมอมาจนถึงช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 18 ปัจจุบันถือว่าเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์สำหรับผู้ที่นับถือศาสนาอิสลามในเมืองโบกรา
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
จากนั้นนำท่านเดินทางไปยัง เมืองพาหรปุระ (Paharpur) เมืองเล็กๆในเมืองนโอคาม (Naogaon) เขตราชชาฮี (Rajshahi) อยู่ห่างจากเมืองโบกราราว 56 กิโลเมตร เป็นสถานที่ตั้งของสถูปเจดีย์ของศาสนาพุทธที่มีการสร้างในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 8 นำท่านเยี่ยมชม สัมมาปุระมหาวิหาร (Somapura Mahavihara) พุทธศาสนสถานที่ได้รับการคัดเลือกให้เป็นหนึ่งในมกดกโลกโดยองค์การยูเนสโกในปีคริสต์ศักราช 1985 โครงสร้างโดยทั่วไปเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าที่มีความสลับซับซ้อน โดยพุทธเจดีย์แบบดั้งเดิมประดิษฐานอยู่ตรงกลางของวิหาร ล้อมรอบโดยกำแพงและกุฏิสงฆ์จำนวน 177 แห่ง ครอบคลุมพื้นที่ 109,265 ตารางเมตร จากนั้นนำท่านเดินทางต่อไปยังเมือง Naogaon
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารของโรงแรม
พักที่ Naogaon โรงแรม Mollika Inn ระดับ 3 ดาว ดีที่สุดในเมือง
วันที่สี่ของการเดินทาง//ราชชาฮี – พิพิธภัณฑ์และศูนย์วิจัยวาเรนดรา – มหาวิหารปูเทีย – พระราชวังปูเทีย – มัสยิดบากาห์ – วัดนาวารัตนา – ธากา
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
เมื่อได้เวลาอันสมควรแล้วนำท่านเดินทางไปยัง ราชชาฮี (Rajshahi) จากนั้นนำท่านเยี่ยมชม พิพิธภัณฑ์และศูนย์วิจัยวาเรนดรา (Varendra Research Museum) เป็นพิพิธภัณฑ์ที่เก่าแก่ที่สุดในบังกลาเทศ เริ่มก่อสร้างในปีคริสต์ศักราช 1910 เป็นสถานที่เก็บรวบรวมและจัดแสดงโบราณวัตถุทางประวัติศาสตร์ในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 16 จนถึงคริสต์ศตวรรษที่ 19 รวมถึงเป็นสถานที่ศึกษาค้นคว้าและวิจัยเกี่ยวกับประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของอารยะธรรมเบงกอล เปิดทำการครั้งแรกเมื่อวันที่ 27 กันยายน ปีคริสต์ศักราช 1910 เยี่ยมชม วิหารปูเทีย (Puthia Temple Complex) ภายในอาณาบริเวณประกอบไปด้วยวัดฮินดู 3 แห่ง คือ วัดปราณชรัตนะ โกบินดา (Pancharatna Gobinda Temple) สร้างขึ้นในช่วงกลางคริสต์ศตวรรษที่ 19 โดยราชินีแห่งปูเทีย เนื่องจากราชวงศ์ที่ปกครองเมืองปูเทียได้เปลี่ยนมานับถือศาสนาฮินดูนิกายไวษณพ จึงได้สร้างวัดฮินดูนี้ขึ้นเพื่อใช้เป็นสถานที่บูชาสักการะองค์มหาเทพกฤษณะ ภายในวัดประดับตกแต่งด้วยดินเผาและภาพวาดเรื่องราวขององค์มหาเทพกฤษณะ วัดภุบเนศวร ศิวะ (Bhubaneshwar Shiva Temple) สร้างขึ้นเพื่อใช้เป็นสถานที่บูชาสักการะองค์มหาเทพศิวะ เป็นวัดฮินดูที่ใหญ่ที่สุดในบังกลาเทศ ก่อสร้างโดยสถาปัตยกรรมแบบผสมผสานระหว่างอินเดียและเบงกอล ภายในวัดประดับตกแต่งด้วยงานแกะสลักหินและผลงานประติมากรรมล้ำค่าโดยเฉพาะศิวลึงค์ที่ทำมาจากหินภูเขาไฟสีดำ และ วัดชคันนาถ (Jagannath Temple) สร้างขึ้นเพื่อใช้เป็นสถานที่บูชาสักการะองค์เทพชคันนาถ (ปางอวตารขององค์มหาเทพกฤษณะ) ก่อสร้างโดยสถาปัตยกรรมแบบเบงกอล ภายในวัดประดับตกแต่งด้วยเครื่องปั้นดินเผาขนาดตั้งแต่ 5 เมตร จนถึง 10 เมตร
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
จากนั้นนำท่านเยี่ยมชม พระราชวังปูเทีย (Puthia Rajbari Palace) สร้างขึ้นในปีคริสต์ศักราช 1895 เพื่อใช้เป็นที่ประทับของมหารานีเฮเมนต้ากุมารี ก่อสร้างโดยใช้สถาปัตยกรรมแบบอินโดในยุคฟื้นฟูศิลปะ (แบบฮินดูผสมผสานกับแบบชวา) ปัจจุบันกำลังอยู่ในขั้นตอนการซ่อมแซมเนื่องจากพระราชวังทรุดโทรมเยอะพอสมควร นำท่านเยี่ยมชม มัสยิดบากาห์ (Bagha Mosque) สร้างขึ้นในปีคริสต์ศักราช 1523 จนถึงปีคริสต์ศักราช 1524 โดยสุลตานนาซิรุดดิน นาสราต ชาห์ (Nasrat Shah) เมื่อได้เวลาอันสมควรแล้วนำท่านเยี่ยมชม วัดนาวารัตนา (Hatikumrul Navaratna Temple) ก่อสร้างในปีคริสต์ศักราช 1704 และเสร็จสิ้นในปีคริสต์ศักราช 1720 โดยใช้สถาปัตยกรรมแบบ เบงกอล ซึ่งใช้กระเบื้องดินเผาเป็นส่วนประกอบหลักในการก่อสร้าง จากนั้นนำท่านเดินทางสู่สนามบิน ราชชาฮี
15.50 ออกเดินทางสู่ เมือง ธากาโดยสายการบิน US-Bangla Airlines Ltd เที่ยวบินที่ 162 (ใช้เวลาบิน45นาที)
16.45 เดินทางถึง สนามบินธากา (Saidpur Airport)
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร จากนั้นนำท่านเข้าสู่ที่พัก
พักที่ ธากา โรงแรม Golden Tulip – The Grandmark Dhaka หรือเทียบเท่าระดับ 4 ดาว
23 ก.พ.61///วันที่ห้าของการเดินทาง///ธากา-กรุงเทพฯ
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำท่านเดินทางสู่ อนุสาวรีย์แห่งการเสียสละ (National Martyrs’ Memorial) เป็นอนุสาวรีย์แห่งชาติของประเทศบังคลาเทศ สร้างขึ้นเพื่อเป็นอนุสรณ์สถานรำลึกถึงผู้เสียชีวิตในเหตุการณ์ “สงครามเพื่อปลดปล่อยบังคลาเทศ” ที่เกิดขึ้นในปีคริสต์ศักราช 1971 อันเป็นผลให้ประเทศบังคลาเทศได้รับอิสระและแยกตัวออกมาจากประเทศปากีสถานได้สำเร็จ อนุสาวรีย์แห่งนี้เริ่มการก่อสร้างครั้งแรกในปีคริสต์ศักราช 1978 และเสร็จสิ้นในปีคริสต์ศักราช 1982 ได้รับการออกแบบโดยไซเอ็ด ไมนูล ฮอสเซน (Syed Mainul Hossain) และมีพื้นที่ตั้งอยู่ในเมืองซาวาร์ ซึ่งอยู่ห่างจากกรุงธากาเมืองหลวงของประเทศบังคลาเทศประมาณ 35 กิโลเมตร สถาปัตยกรรมของอนุสาวรีย์ประกอบด้วยสามเหลี่ยมรูปทรงปริซึ่มจำนวน 7 คู่ โดยคู่ที่อยู่ด้านในสุดจะสูงที่สุดและลดระดับกันไปตามลำดับ จากนั้นนำท่านเดินทางสู่สนามบิน
13.40 ออกเดินทางสู่ กรุงเทพฯ ประเทศไทย โดยสายการบิน Thai Airways เที่ยวบินที่ TG340 (ใช้เวลาเดินทาง 2.30 ชั่วโมง)
17.30 เดินทางถึง สนามบินนานาชาติสุวรรณภูมิ โดยสวัสดิภาพ
………………………………………………………………………………………………………………
อัตราค่าบริการ
ผู้ใหญ่พักห้องคู่หรือเด็ก 1 ท่านพักกับผู้ใหญ่1 ท่าน 39,900.-
ในกรณีต้องการพักห้องเดี่ยวเพิ่มท่านละ 5,900.-
เด็กต่ำกว่า12 ปี (เสริมเตียง-พักกับผู้ใหญ่อีก2 ท่าน) 39,900.-